ลืมเด็กไว้ในรถ !! เรื่องที่พ่อแม่ควรใส่ใจ
ลืมเด็กไว้ในรถ !! เรื่องที่พ่อแม่ และผู้ปกครองควรใส่ใจ พ่อๆแม่ๆ !! อาจจะเคยเห็นข่าวกรณี ลืมเด็กไว้ในรถ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยมากๆ เด็กหลายคนได้รับความช่วยเหลือได้ทันท่วงที แต่ก็มีบางคนที่โชคร้ายต้องเสียชีวิตจากความร้อน และขาดอากาศหายใจ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลืมเด็กไว้ในรถ พ่อๆ แม่ๆ ผู้ปกครองควรจะต้องใส่เด็ก และรู้ข้อควรระวังให้มากๆ แต่จะมีข้อควรระวังอะไรบ้าง วันนี้ทาง Babi Move ได้รวบรวมข้อมูลและข้อระวังในการปกป้องลูกน้อย มาให้พ่อๆแม่ๆ หรือผู้ปกครองมาให้อ่านและนำไปใช้กันค่ะ 1. ห้ามทิ้งเด็ก ไว้ในรถโดยลำพังเด็ดขาดไม่ว่าคุณจะต้องไปทำธุระนอกรถเร็วหรือช้าแต่ควรนำเด็กลงจากรถไปด้วยทุกครั้งแม้เด็กจะหลับอยู่ ก็อย่ากังวลว่ากลัวเป็นการปลุกลูก กลัวลูกงอแง แต่คุณต้องเอาลูกลงจากรถด้วยทุกครั้งไม่ใช่เพียงความปลอดภัยเท่านั้น แต่เป็นการฝึกให้ลูกได้เรียนรู้ว่าทุกครั้งที่จอดรถ ลูกต้องลงจากรถ 2. หมั่นตรวจสอบเด็ก กรณีที่ต้องให้ลูกติดรถไปกับผู้อื่นหมั่นตรวจสอบด้วยการโทรศัพท์ไปสอบถามเป็นระยะว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนอย่างไร เพราะการที่ต้องฝากลูกไว้กับผู้อื่นซึ่งต้องเข้าใจว่าเขาไม่ได้ดูแลลูกเราเป็นประจำอาจทำให้หลงลืมหรือเผอเรอได้ และถ้าเป็นผู้ที่มีความใกล้ชิดกันก็ควรจะพูดกันอย่างตรงไปตรงมาว่าอยู่กับเด็กเล็กต้องระมัดระวังด้วย แต่ทางที่ดีไม่ควรปล่อยลูกวัยเด็กเล็กฝากไว้กับผู้อื่นควรจะต้องมีพ่อแม่หรือคนในครอบครัวประกบเด็กเล็กด้วยทุกครั้ง 3. ไม่แง้มหน้าต่างรถให้เด็ก ด้วยความเข้าใจผิดๆ ที่ว่าการเปิดแง้มหน้าต่างไว้ในรถแล้วปล่อยให้เด็กอยู่ภายในจะทำให้เด็กไม่ขาดอากาศหายใจแล้วจะปลอดภัยแต่ความจริงแล้วเด็กเสียชีวิตเพราะความร้อนสูงไม่ว่าจะจอดกลางแดดหรือในที่ร่ม แต่เนื่องจากสภาพอากาศร้อนในปัจจุบันเหมือนในช่วงนี้ ไม่กี่นาทีเด็กต้อง แย่แน่ๆ นี่ยังไม่นับรวมการปล่อยเด็กทิ้งไว้ในรถลำพังก็อาจถูกลักพาตัวได้เช่นกัน ทางที่ดีเราควรต้องระวังและใส่ใจให้มากๆ เพื่อที่เด็กจะได้ปลอดภัย และหากพบเห็นเด็กถูกลืมไว้ในรถ ขอให้เรียกหาเจ้าของรถ เพื่อให้มาเปิดรถโดยเร็วนะคะ ถ้ากรณีที่ไม่พบเจ้าของรถ ก็ต้องขอให้คนรอบข้างช่วยเหลือค่ะ และรีบโทร.1669 ขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โดยทันที ขอขอบคุณข้อมูลจากศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็กภาควิชากุมารเวชศาสตร์...
อันตราย !! จากรถเข็นเด็กในช่วงอากาศร้อน
อันตราย !! จากรถเข็นเด็กในช่วงอากาศร้อน ในวันที่อากาศสดใส พ่อๆแม่ๆคงอยากพาลูกๆ ออกมาเดินหรือวิ่งเล่น ข้างนอกพร้อมกับลูกน้อย เพื่อให้ลูกน้อยได้รับแสงแดด จนลืมความปลอดภัยของลูกน้อย เพราะอากาศที่ร้อน จะเพิ่มอุณหภูมิภายในรถเข็นได้ถึงระดับอันตราย รถเข็นควรมีการระบายอากาศที่ดี เพื่อความสบายให้กับลูกน้อย และความปลอดภัยด้วย ดังนั้นเราจึงมีวิธีป้องกัน และวิธีช่วยเหลือลูกน้อย ในวันที่อากาศร้อน จะมีวิธีอะไรบ้าง ? มาดูกันเลยค่ะ วิธีปกป้องลูกน้อย จากแสงแดดเมื่อนั่งรถเข็น ช่วงหน้าร้อน – อยู่ในที่ร่มเป็นวิธีที่ง่ายอันดับ 1 ในการหลีกเลี่ยงรังสีที่เป็นอันตรายของดวงอาทิตย์– หารถเข็นเด็กที่มีหลังคา และช่องเปิดด้านหลังเพื่อให้อากาศถ่ายเท *การซื้อรถเข็นเด็กแบบผ้าเนื้อบางเบาจะเป็นประโยชน์ที่ดี– ใช้ร่ม ในการปกป้องแสงแดดเมื่อลูกนั่งบนรถเข็น – หลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอกกับลูกน้อยในวันที่อากาศร้อนจัด *ถ้าเป็นไปได้– มองหาสัญญาณของปัญหา “หากลูกน้อยดูหงุดหงิดมาก หรือตรงกันข้าม เซื่องซึมหรือไม่ตื่นตัว ในการหายใจ หรือโดยเฉพาะการหายใจเร็ว”– ดูลูกน้อยของคุณบ่อยๆ เมื่อเดินหรือวิ่งจ๊อกกิ้งกับเด็กในรถเข็น ให้เช็คอินทุกๆ 10-15 นาที “ดูลูกของคุณ และการตอบสนองของพวกเขา ถ้าแก้มของพวกเขาแดง ถ้าพวกเขาเหงื่อออก แสดงว่าอาจจะร้อนเกินไป” และอาจจะเป็นอันตราย...
เคล็ดลับความปลอดภัยของการใช้คาร์ซีท
เคล็ดลับความปลอดภัยของการใช้คาร์ซีท พร้อมวิธีการเลือกที่นั่งที่เหมาะสมสำหรับเด็ก คาร์ซีทและบูสเตอร์เป็นอุปกรณ์เสริมความปลอดภัยที่เป็นช่วยคุ้มครองทารกและเด็กในการเกิดอุบัติเหตุรถชน แต่การชนเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของเด็กอายุ 1 ถึง 13 ปี การเลือกและใช้คาร์ซีทที่ถูกต้องทุกครั้งของบุตรหลานคุณในนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ เราจึงต้องรู้การใช้คาร์ซีท เช่น การเลือกที่นั่งที่เหมาะสม การติดตั้งอย่างถูกต้อง และดูแลให้บุตรหลานของคุณปลอดภัย เริ่มได้ง่าย ๆ ด้วยตัวของคุณเอง คาร์ซีทที่แนะนำตามอายุและขนาดของเด็ก ขอขอบคุณข้อมูลตารางอายุตามคาร์ซีท จาก https://www.nhtsa.gov/ คาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหลังแรกเกิด – 12 เดือนเด็กที่อายุต่ำกว่า 1 ปีควรนั่งคาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหลังเสมอ เบาะรถยนต์หันหน้าไปทางด้านหลังมีหลายประเภท:สามารถใช้เบาะนั่งสำหรับทารกเท่านั้นโดยหันหน้าไปทางด้านหลังคาร์ซีทแบบเปิดประทุนและออล-อิน-วันมักจะมีความสูงและน้ำหนักที่จำกัดสำหรับตำแหน่งที่หันไปทางด้านหลัง ช่วยให้คุณให้เด็กหันหน้าไปทางด้านหลังได้เป็นระยะเวลานานขึ้นเด็กอายุ 1 – 3 ปีให้ลูกของคุณหันหน้าไปทางด้านหลังให้นานที่สุด เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้เขาหรือเธอปลอดภัย ลูกของคุณควรอยู่ในคาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหลังจนกว่าเขาจะถึงความสูงหรือน้ำหนักที่จำกัดสูงสุดที่ผู้ผลิตคาร์ซีทของคุณอนุญาต เมื่อลูกของคุณโตเร็วกว่าคาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหลัง ลูกของคุณก็พร้อมที่จะเดินทางในคาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหน้าด้วยสายรัดและสายโยง คาร์ซีทแบบหันหน้าไปข้างหน้าเด็กอายุ 1 – 3 ปีให้ลูกของคุณหันหน้าไปทางด้านหลังให้นานที่สุด เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้เขาหรือเธอปลอดภัย ลูกของคุณควรอยู่ในคาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหลังจนกว่าเขาจะถึงความสูงหรือน้ำหนักที่จำกัดสูงสุดที่ผู้ผลิตคาร์ซีทของคุณอนุญาต เมื่อลูกของคุณโตเร็วกว่าคาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหลัง ลูกของคุณก็พร้อมที่จะเดินทางในคาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหน้าด้วยสายรัดและสายโยงเด็กอายุ 4 – 7 ปีให้บุตรหลานของคุณนั่งคาร์ซีทแบบหันไปข้างหน้าโดยใช้สายรัดและผูกจนกว่าเขาจะถึงความสูงสูงสุดหรือน้ำหนักที่จำกัดโดยผู้ผลิตคาร์ซีทของคุณ เมื่อลูกของคุณโตเร็วกว่าคาร์ซีทแบบหันหน้าไปข้างหน้าด้วยสายรัด ก็ถึงเวลาที่ต้องเดินทางในเบาะเสริมที่นั่ง แต่ยังอยู่ในเบาะหลัง เบาะรองนั่งเด็กอายุ 4 –...
เป้อุ้มเด็ก ใช้อย่างไรให้ปลอดภัย ?
เป้อุ้มเด็ก คืออะไร ? เป้อุ้มเด็ก คือ เป้อุ้มเด็กที่เป็นอุปกรณ์เสริมประเภทกระเป๋าที่ช่วยเลี้ยงดูลูกน้อย ใช้สำหรับการอุ้มทารกไว้ที่อกหรือหลังเป้อุ้มเด็ก เป็น เป้อุ้มเด็กแบบบุนวมที่คุณใส่ด้านหน้า บางตัวมีตัวเลือกที่ปรับได้เพื่อให้คุณสามารถใส่ลูกน้อยไว้บนหลังหรือสะโพกได้สลิงสำหรับทารก คือ กระเป๋าหรือแถบผ้า มักจะคาดไว้บนไหล่และสวมพาดด้านหน้าในตำแหน่งต่างๆกระเป๋าเป้เด็ก มักจะมีโครงแข็ง คุณสวมใส่เฉพาะบนหลังของคุณ เหมาะสำหรับเด็กโตและเด็กวัยหัดเดินที่สามารถยกศีรษะได้ ทางที่ดีควรถามแพทย์ทั่วไปหรือพยาบาลสุขภาพเด็กและครอบครัวว่าลูกของคุณโตพอสำหรับเป้หรือไม่หรือเหมาะสำหรับการใช้รึเปล่า !! *การอุ้มลูกน้อยในเป้อุ้มเด็ก สะพายข้าง หรือสะพายเป้ ช่วยให้คุณมีอิสระในการแฮนด์ฟรี และเด็กส่วนใหญ่ชอบที่จะมองเห็นโลกจากที่สูง หากคุณใช้เป้อุ้มเด็ก สลิง และเป้สะพายหลังอย่างถูกวิธี ถือเป็นวิธีเดินทางที่ปลอดภัยและเป็นประโยชน์กับลูกน้อยของคุณ*สิ่งที่ควรสังกตุในเป้อุ้มเด็ก หากคุณสนใจเป้อุ้มเด็ก สิ่งสำคัญคือต้องมองหาที่ให้ตำแหน่งสะโพกแข็งแรงสำหรับลูกน้อยของคุณสะดวกสบายสำหรับคุณในการสวมใส่ปลอดภัยต่อการใช้งานการวางตำแหน่งสะโพกที่ดีต่อสุขภาพ การ วางตำแหน่ง สะโพกที่ดีต่อสุขภาพจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการของสะโพกให้เป็นปกติในทารก และลดความเสี่ยงของ พัฒนาการผิดปกติ ของสะโพก ...
ประโยนช์ของรถเข็นเด็ก
รถเข็นเด็ก มีประโยชน์อย่างไร ? รถเข็นเด็ก ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องมี สำหรับลูกน้อยของคุณและคุณต้องรู้วิธีเลือกรถเข็นเด็กที่ดีที่สุด มีรถเข็นเด็กหลายประเภทและแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อเสีย สำหรับผู้ปกครองบางคน สิ่งของอย่างเช่น รถเข็นเด็ก สามารถสร้างความแตกต่างในการทำกิจกรรมประจำวันกับลูกน้อยได้ รถเข็นเด็กไม่ได้เป็นเพียงแค่การเข็นเด็กให้เด็กนั่งเท่านั้น แต่เป็นวิธีเพื่อให้ลูกน้อยของคุณอยู่ใกล้คุณ ข้อดี อีกอย่างของรถเข็นเด็กคือเมื่อคุณเดินทางกับลูกน้อย รถเข็นเด็กสามารถทำให้ลูกของคุณปลอดภัยได้มากขึ้นอีกด้วยรถเข็นเด็ก ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายของลูกน้อย รถเข็นจึงมีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นที่นิยม เพราะรถเข็นเด็กที่ดีที่สุดมีประโยชน์มากมายสำหรับผู้ปกครอง ประโยนช์ของรถเข็นเด็กคือ รถเข็นเด็กสะดวก เมื่อลูกของคุณต้องการสำรวจโลก รถเข็นเด็กเป็นตัวเลือกที่ดี การดูแลลูกของคุณในขณะที่พวกเขากำลังคลานเป็นงานที่ยาก หากคุณออกไปเที่ยวกับลูกน้อย คุณต้องคอยจับตาดูพวกเขาอยู่เสมอ นี่คือข้อดีของรถเข็นเด็กในการทำงานเพื่อแก้ปัญหาชั่วคราว รถเข็นเด็กสะดวกสำหรับทั้งเด็กแรกเกิดและเด็กโต สำหรับผู้ปกครอง การเดินทางจะยากขึ้นเมื่อกลุ่มความสุขเริ่มเติบโตจากที่นั่งทารก ด้วยรถเข็น คุณสามารถเดินไปรอบๆ กับลูกน้อยของคุณในขณะที่ยังว่างมืออยู่ นี่คือเหตุผลที่การใช้รถเข็นเด็กกลายเป็นกระแสนิยมในหมู่ผู้ปกครองใหม่รถเข็นเด็กรับประกันความปลอดภัยด้วยการคิดค้นรถเข็นเด็ก คุณสามารถพาลูกไปได้ทุกที่ วิธีนี้ช่วยให้อยู่ห่างจากอุบัติการณ์ที่ไม่คาดคิดและปกป้องทารกที่อยู่ข้างในด้วย ในช่วงปีแรก รถเข็นเด็กช่วยให้คุณดูแลลูกน้อยของคุณให้ปลอดภัยได้ดีกว่าการถือไว้ในอ้อมแขน มีตัวเลือกมากมายในตลาดที่ปลอดภัย และรถเข็นเด็กที่ดีที่สุดสำหรับทารกและเด็กวัยหัดเดิน รถเข็นเด็กเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการทำให้ลูกน้อยของคุณเพลิดเพลินและปลอดภัยในช่วงสัปดาห์ที่พวกเขาเดินไม่ได้รถเข็นเด็กทำให้การเดินทางง่ายขึ้นการเดินทางกับทารกอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียด หลายคนเลือกที่จะไม่เดินทางกับลูกเล็กๆ เพียงเพราะว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก อย่างไรก็ตาม ด้วยรถเข็นเด็ก คุณสามารถขจัดความกังวลนี้ได้ รถเข็นเด็กมีประโยชน์ในการใช้งานและเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเดินทางทั้งในร่มและกลางแจ้ง ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ เป้อุ้ม เด็กหรือรถหัดเดินคือรถเข็นเด็ก เมื่อคุณเดินทางพร้อมทารก รถเข็นจะช่วยให้คุณเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยผู้ปกครองในการอุ้มทารกจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งโดยไม่ต้องอุ้มเด็กไว้ในอ้อมแขนรถเข็นเด็กใช้งานได้อเนกประสงค์รถเข็นเด็กเป็นยานพาหนะอเนกประสงค์ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย เมื่อใช้อย่างถูกต้องรถเข็นเด็กจะมอบความคุ้มค่าและความสะดวกสบายให้กับผู้ปกครองเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่รถเข็นเด็กเท่านั้นที่ทำให้พ่อแม่พาลูกไปข้างนอกได้ง่าย แต่ยังช่วยป้องกันการถูกแดดเผาอีกด้วย รถเข็นเด็กจำนวนมากมาพร้อมกับม่านบังแดดที่ช่วยปกป้องลูกน้อยจากรังสียูวีที่เป็นอันตราย นอกจากนี้ รถเข็นเด็กที่ดีที่สุดบางรุ่นยังแปลงเป็นโต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อมแบบพกพาสำหรับทารกที่สามารถใช้ได้ทุกที่ทุกเวลารถเข็นเด็กช่วยให้คุณพกพาอุปกรณ์เสริมสำหรับเด็กรถเข็นเด็กสามารถเป็นอุปกรณ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณเมื่อเดินเล่นในสวนสาธารณะกับลูกน้อยของคุณ รถเข็นเด็กมีช่องเก็บของกว้างขวางที่ช่วยให้ผู้ปกครองจัดระเบียบสิ่งของจำเป็นสำหรับทารกขณะเดินทางด้วย สามารถใส่ของใช้เด็กอ่อน เช่น ผ้าอ้อม ขวดนม และของเล่น ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณเลือกรถเข็นเด็กคุณภาพสูงและกว้างขวางเป็นพิเศษ...
ราชกิจจาฯ ประกาศ !! เด็กไม่เกิน 6 ปี ต้องนั่งคาร์ซีท
ราชกิจจาฯ ประกาศ เด็กไม่เกิน 6 ปี ต้องนั่งคาร์ซีท มีโทษปรับปรับสูงสุด 2,000.- บาท ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565 โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก มาตรา 7 ให้ยกเลิกความในมาตรา 123 แห่ง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน – คนโดยสารที่นั่งแถวตอนหน้าและที่นั่งแถวตอนอื่น ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งตลอดเวลาในขณะโดยสารรถยนต์ – คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กหรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ – คนโดยสารที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่ง หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะนั่งแถวตอนใด ...
การเลือกคาร์ซีทสำหรับเด็ก
การเลือกคาร์ซีทสำหรับเด็ก ต้องดูอะไรบ้าง ? ข้อแนะนำให้ซื้อคาร์ซีทสำหรับเด็กก่อนที่ทารกจะคลอดถ้าเป็นไปได้ สิ่งสำคัญคือต้องซื้อเบาะที่นั่งที่เหมาะกับรถของคุณและเหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด หากคุณมีลูกอยู่ในโรงพยาบาลหรือศูนย์คลอด คุณจะต้องใช้เบาะรถยนต์เพื่อขับรถกลับบ้านเกิดอย่างปลอดภัย เป็นความคิดที่ดีที่จะฝึกปรับที่นั่งให้พอดีก่อนที่ทารกจะคลอด ก่อนอื่นเราต้องรู้จัก i-Size คาร์ซีท ก่อนว่า คืออะไร ? i-Size เป็นมาตรฐานความปลอดภัยของที่นั่งเด็กและทารกในรถยนต์ของยุโรป เป็นส่วนหนึ่งของระเบียบ ECE R129 ซึ่งจะมาแทนที่ข้อบังคับด้านความปลอดภัยแบบเก่า R44/04 ในท้ายที่สุด แนวคิดก็คือว่าในที่สุดเบาะรถยนต์ทั้งหมดจะเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย i-Size ที่เข้มงวดยิ่งขึ้นรถของคุณต้องมีขั้วต่อ Isofix คุณจึงจะสามารถใช้คาร์ซีทขนาด i-Size ได้ ในขณะนี้ มีเบาะนั่ง i-Size เพียงไม่กี่ที่นั่งในตลาดในสหราชอาณาจักร และไม่ใช่ว่ารถยนต์ทุกคันจะมีขั้วต่อ Isofixเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Royal Society for the Prevention of Accidents (RoSPA) เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเบาะรถยนต์สำหรับเด็กi -Size คาร์ซีทแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ขึ้นอยู่กับอายุและน้ำหนักของทารกหรือเด็ก กลุ่ม 0+ – คาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหลัง เหมาะสำหรับทารกอายุไม่เกิน...